วันพฤหัสบดีที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2554

คำสอนหลวงปู่ดู่ การอนุโมนาบุญ และการปฏิบัติ

โมทนาบุญ
ผู้ที่มาทำบุญที่วัดบางครั้งมาคนเดียว มาหลายคน หรือมากับครอบครัว บางท่านมีศรัทธามากทำบุญอย่างสม่ำเสมอ แต่เกิดอุปสรรคจากสามีหรือภรรยา หรือพ่อแม่ไม่เห็นดีด้วย บางคนถึงกับออกปากว่า
"พระมีเฉพาะที่วัดสะแกหรือไง เจ้าอาวาสยังหนุ่มใช่ไหม"
ร้อยสรรพันเรื่องที่หยิบยกขึ้นมา ผู้ที่ต้องการบุญจึงเกิดความไม่สบายใจ เพราะต้องการให้เขาเหล่านั้นได้รับกุศลไปด้วย จึงมาเรียนถามความเห็นของหลวงปู่ ซึ่งท่านตอบว่า
"คนที่เข้าใจก็เห็นด้วย คนที่ไม่เข้าใจก็ไม่เห็นด้วย เอาอย่างนี้ พอทำบุญหลายๆ ครั้งรวมเป็นครั้งเดียวไปบอกให้เขาโมทนาซะ ว่าฉันไปทำบุญมา ขอให้โมทนาด้วย"
ผู้ถามถามต่ออีกว่า ถ้าต้องการให้ผู้ที่ไม่สนใจมาทางเดียวกัน ควรจะทำอย่างไร หลวงปู่ตอบว่า
"พอเวลาทำบุญก็ให้บุญกับเขา เรียกกายทิพย์เขามารับบุญ เขาเรียกว่าให้บุญใน หรือให้ทางใน นานไปเขาก็เปลี่ยนไปเอง หรือเราจะให้กับคนที่เขาโกรธเรา อาฆาตพยาบาทตัวเราก็ได้"
หลวงปู่ยังได้โยงไปถึงการให้บุญกับผู้อื่นอีก
"บุญเป็นของดี เราให้ใครก็ได้ ไม่ว่าเจ้านาย ลูกน้อง หรือคนที่เราจะไปติดต่อขอความช่วยเหลือ ได้ทั้งนั้น
บุญคือความสบายใจ การสร้างบุญโดยการให้ด้วยจิตใจที่เมตตา คือเป็นคนกล่อมเกลาจิตใจไปในตัว และเป็นการปฏิบัติธรรมอีกอย่างหนึ่งด้วย"
ไม่ต้องลอง
บ่อยครั้งที่มีผู้ต้องการปฏิบัติไปกราบนมัสการและแจ้งความประสงค์ขอปฏิบัติ ซึ่งเป็นเรื่องที่หลวงปู่ยินดีมาก มีอยู่ครั้งหนึ่งมีผู้มาขอปฏิบัติกับท่านโดยพูดว่า
"ผมอยากมาลองปฏิบัติดู เขาว่าทำแล้วดี"
หลวงปู่ท่านรีบตอบว่า
"ไม่ต้องลอง ทำเลย ขืนลองก็ไม่เจอของดีสักที ธรรมะไม่ใช่ของลอง เป็นของให้ทำจึงจะเห็นผล"
ผู้เขียน "หลวงปู่มีวิธีการหรือหลักการอย่างไรในการเผยแพร่กับหมู่คณะที่มาปฏิบัติ"
หลวงปู่ "เราไม่ใช่อาจารย์ เราแอบทำเพราะเราไม่สามารถประกาศได้มากกว่านี้ เพียงแต่ข้าตั้งจิตอธิษฐานว่าคนใดก็ตามที่เคยทำบุญร่วมกันมา ขอให้ได้มาพบกันแล้วมาปฏิบัติธรรมเพื่อให้ดีขึ้นไปเรื่อยๆ ไม่ได้ชาตินี้ ก็ให้ได้ชาติต่อๆ ไป บางคนเขามาแล้วก็เลยไปยังไม่ทันได้ชิม บางคนชิมแล้วยังไม่ทานก็ไป แสดงว่าเขาไม่ได้ทำบุญร่วมกับเรามาก็แค่นั้น"
ผู้เขียน "บางครั้งพระที่ดี คนในท้องถิ่นมักจะไม่ได้ของดีอย่างเช่น หลวงปู่ปาน"
หลวงปู่ "แล้วแต่บุญของเขา อย่างพระของข้า ข้าก็แจกๆ กันไป คนไกลเขาก็ได้กัน คนใกล้ไม่ค่อยได้"
ผู้เขียน "อย่างนี้เขาเรียกว่า ใกล้เกลือกินด่างใช่ไหมครับ"
หลวงปู่ "ใกล้เกลือตีนด่าง เพราะมันเหยียบเลย ข้าโดนมาโชกแล้ว แต่ข้าไม่สนใจ ดีชั่วอยู่ที่ตัวเรา ไม่ได้อยู่ที่คนอื่น เรื่องของบุญใครทำใครได้ ทำให้กันไม่ได้ เหมือนกับใครหิวข้าวก็ต้องกินเอง ใครกินใครอิ่ม บางคนต้องจ้างให้มาวัด แต่ก็มาไม่ถึงวัด เพราะแวะกินเหล้าข้างทาง บางทีให้ปฏิบัติแต่จะหวังรางวัลที่หนึ่ง หรือถูกหวย นั่นเละแล้ว ไม่ได้เรื่องแล้ว"
หลวงปู่ให้ข้อคิดเกี่ยวกับการปฏิบัติที่แท้จริง ไม่ใช่ปฏิบัติเพียงหลอกๆ จึงจะเจอของจริงได้ เมื่อใดก็ตามที่เราเห็นความสำคัญของการปฏิบัติเหมือนกับการกินข้าว เหมือนกับลมหายใจ แสดงว่าเรามีที่พึ่งสำหรับตนเองแน่นอน

ขอขอบคุณข้อมูลจากเวบ http://www.dharma-gateway.com/monk/preach/lp_doo/lp-doo-05.htm และเจ้าของรูปครับ

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น