พระบรมสารีริกธาตุ พระทันตธาตุของสมเด็จพระพุทธกัสสัปปะสัมมาสัมพุทธเจ้า
เชิญประชาชนร่วมกราบบูชาพระบรมสารีริกธาตุ "พระทันตธาตุ" เพื่อเป็นสิริมงคลในช่วงปีใหม่
โดยกองประชาสัมพันธ์ กทม. เมื่อ 16 ธันวาคม 2011 เวลา 1:52 น.
1. ณ จังหวัดเชียงใหม่ วันที่ ๙ มกราคม ๒๕๕๕ – วันที่ ๒๐ มกราคม ๒๕๕๕
2. จังหวัดสงขลา วันที่ ๒๑ มกราคม ๒๕๕๕ – วันที่ ๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕
3. และจังหวัดขอนแก่น วันที่ ๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕ – วันที่ ๑๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕
ขอบคุณข้อมูลจาก ที่มา : www.pantip.com และ http://th-th.facebook.com/note.php?note_id=161712917261671
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ โทร. 0 2441 4515, 0 2441 5140 และ สายด่วน กทม 1555
เมื่อ วันที่ 7 ธ.ค. นพ.สุรวิทย์ คนสมบูรณ์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่กำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.) กล่าวว่า ตามที่สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก แห่งราชอาณาจักรภูฏาน โปรดให้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ พระทันตธาตุของพระกัสสปะพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าองค์ที่ 3 ที่ประดิษฐานไว้ในพระราชวัง ให้มาประดิษฐานที่ประเทศไทยเป็นการชั่วคราว เพื่อร่วมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสเจริญพระชนมพรรษาครบ 7 รอบ 84 พรรษา และเพื่อให้ประชาชนชาวไทยได้สักการะ ซึ่งขณะนี้ได้มีการอัญเชิญพระทันตธาตุมาประดิษฐานไว้ ณ ยอดมณฑป สนามหลวง ในงานกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่จัดขึ้นระหว่าง วันที่ 3-9 ธ.ค. และหลังจากวันที่ 9 ธ.ค. แล้ว
จะมีการทำ เรื่องแจ้งไปยังกรุงเทพมหานคร เพื่อขอประดิษฐานไว้ที่สนามหลวงอีกจนถึงสิ้นปี 2554 เพื่อให้ประชาชนชาวกรุงเทพฯ และจังหวัดใกล้เคียงได้มีโอกาสเดินทางมาสักการะ หลังจากนั้นในช่วงต้นปี 2555 จะมีการอัญเชิญพระทันตธาตุไปยังภูมิภาคต่างๆ ทั้งภาคเหนือ ภาคใต้ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เพื่อให้ประชาชนในส่วนภูมิภาคได้มีโอกาสสักการะด้วย โดยช่วงสัปดาห์แรกของเดือนม.ค. 2555 จะอัญเชิญไปประดิษฐานที่จ.เชียงใหม่ เป็นเวลา 16 วัน จากนั้นจะอัญเชิญไปประดิษฐานที่จ.ขอนแก่นเป็นเวลา 12 วัน และจะอัญเชิญไปประดิษฐานที่จ.สงขลา ก่อนที่จะมีการอัญเชิญพระทันตธาตุกลับไปยังประเทศภูฏานในวันที่ 18 ก.พ. 2555
นพ.สุรวิทย์ กล่าวต่อไปว่า พระทันตธาตุนี้ แม้แต่ประชาชนชาวภูฏานเองยังไม่มีโอกาสที่จะได้เข้าไปสักการะบ่อยๆ เพราะทางภูฏานมีการเก็บรักษาพระทันตธาตุไว้เป็นอย่างดี จะเปิดให้ประชาชนภูฏานสักการะได้เพียงปีละ 1 ครั้งเท่านั้น คือวันที่ 20 ก.พ. ของทุกปี ซึ่งเป็นวัน “ดราก้อน เยียร์” ของทางภูฏาน จึงนับว่าเป็นโอกาสอันดีที่ประชาชนชาวไทยจะได้สักการะพระทันตธาตุเพื่อความ เป็นสิริมงคลสูงสุด เสมือนกับได้เข้าเฝ้าพระพุทธเจ้าอย่างใกล้ชิด นับว่าเป็นครั้งแรกในโลกที่ทางประเทศภูฏานยอมให้มีการอัญเชิญพระทันตธาตุออก นอกประเทศ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก http://www.thairadiofm1068.thaimonkong.org/Descriptionnews/Details8.12.54.html
ขอขอบคุณ ภาพจากเว็บ พลังจิตครับ
ขอขอบคุณ ภาพจากเว็บ พลังจิตครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น