วันจันทร์ที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2555

เชิญประชาชนร่วมกราบบูชา พระทันตธาตุของสมเด็จพระพุทธกัสสัปปะสัมมาสัมพุทธเจ้า

พระบรมสารีริกธาตุ พระทันตธาตุของสมเด็จพระพุทธกัสสัปปะสัมมาสัมพุทธเจ้า

 

เชิญประชาชนร่วมกราบบูชาพระบรมสารีริกธาตุ "พระทันตธาตุ" เพื่อเป็นสิริมงคลในช่วงปีใหม่

โดยกองประชาสัมพันธ์ กทม. เมื่อ 16 ธันวาคม 2011 เวลา 1:52 น.
          สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติได้จัดโครงการอัญเชิญ “พระบรมสารีริกธาตุ” ของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจากราชอาณาจักรภูฏาน มาประดิษฐานเป็นการชั่วคราวในราชอาณาจักรไทย   เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล ในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๗ รอบ ๕ ธันวาคม ๒๕๕๔ สำหรับพระบรมสารีริกธาตุของกัสสปะพุทธเจ้านี้ ทางคณะสงฆ์ของภูฏานระบุว่า เป็นองค์เดียวในโลกและได้เก็บรักษาเป็นอย่างดีในพระราชวังของสมเด็จพระ ราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก ไม่เคยนำออกนอกประเทศมาก่อนแต่เนื่องจากภูฏานกับไทยมีความสัมพันธ์ใกล้ชิด กัน   มีพระราชประสงค์จะร่วมเฉลิมฉลองเนื่องในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษา ๗ รอบ ๘๔ พรรษา ด้วยการพระราชทานพระบรมสารีริกธาตุดังกล่าวมาประดิษฐานในประเทศไทยเป็นการ ชั่วคราวเป็นประเทศแรก และเพื่อเป็นการบำรุงขวัญสร้างกำลังใจให้แก่พุทธศาสนิกชนชาวไทยที่ประสบภัย พิบัติจากเหตุการณ์มหาอุทกภัยจะได้ใช้โอกาสนี้  กราบไหว้สักการบูชาพระบรมสารีริกธาตุอย่างใกล้ชิด เพราะบุญกุศลในการกราบไหว้พระบรมสารีริกธาตุนั้น เสมือนหนึ่งได้เข้าเฝ้ากราบไหว้พระสัมมาสัมพุทธเจ้าด้วยตนเอง จึงนับว่าเป็นสิริมงคลอย่างยิ่ง   ทั้งต่อตนเอง และครอบครัว ทั้งนี้ พระบรมสารีริกธาตุ "พระทันตธาตุ" ดังกล่าว จะประดิษฐานอยู่ที่ประเทศไทยเพื่อให้พุทธศาสนิกชนและประชาชนคนไทยได้สักการะ ได้ทุกวันตั้งแต่เวลา ๐๘.๐๐ – ๒๒.๐๐ น. ที่ท้องสนามหลวง  และจะมีการอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ (พระทันตธาตุ) ไปประดิษฐาน
 
 1. ณ จังหวัดเชียงใหม่  วันที่ ๙ มกราคม ๒๕๕๕ –  วันที่ ๒๐ มกราคม ๒๕๕๕  
 2. จังหวัดสงขลา วันที่  ๒๑ มกราคม ๒๕๕๕ – วันที่ ๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕  
 3.  และจังหวัดขอนแก่น  วันที่ ๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕ – วันที่ ๑๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕

ขอบคุณข้อมูลจาก ที่มา : www.pantip.com และ http://th-th.facebook.com/note.php?note_id=161712917261671

        สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ โทร. 0 2441 4515, 0 2441 5140 และ สายด่วน กทม 1555




                    เมื่อ วันที่ 7 ธ.ค. นพ.สุรวิทย์ คนสมบูรณ์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่กำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.) กล่าวว่า ตามที่สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก แห่งราชอาณาจักรภูฏาน โปรดให้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ พระทันตธาตุของพระกัสสปะพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าองค์ที่ 3 ที่ประดิษฐานไว้ในพระราชวัง ให้มาประดิษฐานที่ประเทศไทยเป็นการชั่วคราว เพื่อร่วมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสเจริญพระชนมพรรษาครบ 7 รอบ 84 พรรษา และเพื่อให้ประชาชนชาวไทยได้สักการะ ซึ่งขณะนี้ได้มีการอัญเชิญพระทันตธาตุมาประดิษฐานไว้ ณ ยอดมณฑป สนามหลวง ในงานกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่จัดขึ้นระหว่าง วันที่ 3-9 ธ.ค. และหลังจากวันที่ 9 ธ.ค. แล้ว 

                    จะมีการทำ เรื่องแจ้งไปยังกรุงเทพมหานคร เพื่อขอประดิษฐานไว้ที่สนามหลวงอีกจนถึงสิ้นปี 2554 เพื่อให้ประชาชนชาวกรุงเทพฯ และจังหวัดใกล้เคียงได้มีโอกาสเดินทางมาสักการะ หลังจากนั้นในช่วงต้นปี 2555 จะมีการอัญเชิญพระทันตธาตุไปยังภูมิภาคต่างๆ ทั้งภาคเหนือ ภาคใต้ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เพื่อให้ประชาชนในส่วนภูมิภาคได้มีโอกาสสักการะด้วย โดยช่วงสัปดาห์แรกของเดือนม.ค. 2555 จะอัญเชิญไปประดิษฐานที่จ.เชียงใหม่ เป็นเวลา 16 วัน จากนั้นจะอัญเชิญไปประดิษฐานที่จ.ขอนแก่นเป็นเวลา 12 วัน และจะอัญเชิญไปประดิษฐานที่จ.สงขลา ก่อนที่จะมีการอัญเชิญพระทันตธาตุกลับไปยังประเทศภูฏานในวันที่ 18 ก.พ. 2555


                   นพ.สุรวิทย์ กล่าวต่อไปว่า พระทันตธาตุนี้ แม้แต่ประชาชนชาวภูฏานเองยังไม่มีโอกาสที่จะได้เข้าไปสักการะบ่อยๆ เพราะทางภูฏานมีการเก็บรักษาพระทันตธาตุไว้เป็นอย่างดี จะเปิดให้ประชาชนภูฏานสักการะได้เพียงปีละ 1 ครั้งเท่านั้น คือวันที่ 20 ก.พ. ของทุกปี ซึ่งเป็นวัน ดราก้อน เยียร์ของทางภูฏาน จึงนับว่าเป็นโอกาสอันดีที่ประชาชนชาวไทยจะได้สักการะพระทันตธาตุเพื่อความ เป็นสิริมงคลสูงสุด เสมือนกับได้เข้าเฝ้าพระพุทธเจ้าอย่างใกล้ชิด นับว่าเป็นครั้งแรกในโลกที่ทางประเทศภูฏานยอมให้มีการอัญเชิญพระทันตธาตุออก นอกประเทศ

ขอขอบคุณข้อมูลจาก http://www.thairadiofm1068.thaimonkong.org/Descriptionnews/Details8.12.54.html 
ขอขอบคุณ ภาพจากเว็บ พลังจิตครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น